I just voted "Option 5 (Only Front)" on "What is the Linea SWAG that you would like to see at upcoming events? " snapshot.org/#/linea-build.eth/proposal/0xda4f201a37ea08cf1892418e7b9e88f5687a68dbdc96c3ab22abaa1c7244648e #Snapshot
I just voted "Yes" on "Stargate x Galxe: Optimism Ecosystem Growth Grant" snapshot.org/#/stgdao.eth/proposal/0xda01dacad76bf6559fcd16cf947f23dd4ee3459e1d08aa6325b17a573733d039 #snapshotlabs
อธิบายเร็วๆ คร่าวๆ ก่อนเรื่อง สถานการณ์ทองคำ ทุกคนจะได้ไปคิดเองได้ ว่าควรจะทำยังไงต่อ
เนื่องจาก ธ.กลางทั่วโลก ใช้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจแบบเคนเซี่ยน (Keynesian Economics-คือการใช้เงินเกินที่ตัวมี .. ไม่เชื่อในหลักปล่อยให้เศรษฐกิจปรับตัวเองด้วยกลไกตลาดเสรี) ด้วยการอัดฉีดเงินเข้าระบบ นั่นหมายถึงการก่อหนี้ปริมาณมหาศาล
นั่นทำให้ปริมาณเงินในระบบเพิ่มขึ้นมาตลอด เงินที่มีในมือเราจึงทยอยเสื่อมค่าลงเรื่อยๆ
การกระตุ้น ศก. ด้วยวิธีนี้ ทำมานานเกือบครึ่งศตวรรษ โดยเฉพาะหลังปี 1971 ที่สหรัฐยกเลิกมาตรฐานทองคำ และใช้เงินดอลลาร์เป็นเสาหลัก ศก.โลก แทน
สิ่งใดที่มนุษย์สร้างเองได้ โดยเฉพาะเงินตรา มักจะมีแนวโน้มไร้วินัยในการควบคุมปริมาณเงิน และนั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นกับสกุลเงินทั่วโลก.. ประเทศไหนไม่ใหญ่พอ ก็ต้องก่อหนี้/ขาดดุลงบประมาณกันไปเรื่อยๆ .. ส่วนประเทศมหาอำนาจ จะพิมพ์เงินออกมาเท่าไหร่ ตราบใดที่ยังเสียงดัง ด้วยพลังกองทัพ และอะไรก็ตามแต่ ประเทศอื่นๆ ก็ไม่กล้าหืออืออะไร แม้จะรู้ทั้งรู้ว่าไม่แฟร์
ช่วงนี้ มาประจวบเหมาะทั้ง สหรัฐก่อหนี้มหาศาลมาตั้งแต่ 1971 และ มาหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ หลัง dot com crisis ปี 2000, hamburger crisis ปี 2008, และ ล่าสุด Covid Crisis จนถึงปัจจุบัน .. เมื่อมารวมกับ การก้าวขึ้นมาท้าทายของขั้วอำนาจใหม่จากตะวันออก อย่าง รัสเซีย และ จีน ที่เน้นทรัพยากรธรรมชาติที่มนุษย์ต้องการ แต่เสกเองไม่ได้ ทั้งอาหาร พลังงาน โลหะมีค่า ฯลฯ
ดังนั้น โลกกำลังจะเข้าสู่การจัดระเบียบการเงินครั้งใหม่ เมกาเองก็รู้ว่าระบบเดิมไปต่อไม่ได้ แต่ก็ทู่ซี้ยื้อมานาน ขนาดดอกเบี้ยควรจะขึ้นตั้งนานยังไม่ยอมขึ้นเลย เพราะรู้ว่าขึ้นไป ที่พังทันทีคือมูลค่าทรัพย์สินในตลาดการเงินทั้งหลาย แต่ถ้าไม่ขึ้นดอกเบี้ยรอบนี้ ก็ไม่ได้ละ เพราะเงินเฟ้อมากจากการเสื่อมค่าของเงินดอลลาร์ (ก็พิมพ์มา 30ล้านล้าน ดอล แล้วยังจะพิมพ์ต่อไปไม่หยุดอะ)
หนึ่งในการจัดระเบียบสำคัญ คือ กติกา Basel ซึ่งกำหนดโดย BIS (Bank of International Settlement อยู่ที่เมือง Basel สวิตเซอร์แลนด์-มันถึงเรียกว่า กฎ Basel) ร่วมกับ องค์กรการเงินโลกทั้งหลาย จริงๆ Basel 3 ต้องใช้ทั้งโลกตั้งแต่ต้นปีนี้ ก็เลื่อนไปอีก เป็น Basel 4 เลยปีหน้า แต่ก็เดาว่าคงจะเลื่อนไปอีก ถ้าเลื่อนได้ .. หลักใหญ่ใจความ มันคือกฏระเบียบที่จะทำให้ประเทศทั้งหลายซึ่งไร้วินัยการเงิน ไม่สามารถเสกเงินจากอากาศโดยไม่มีทรัพย์สินจริงๆ ที่มีมูลค่าจริงๆ หนุนหลังอีกต่อไป
ระหว่างรอผู้มีอำนาจเค้าจัดระเบียบการเงินโลกให้เรียบร้อย (ซึ่งจะไม่ยอมทำหรอก จนกว่าจะจวนตัวจริงๆ เพราะผลประโยชน์ตรงนี้มหาศาล) แต่ปรากฏว่า คนทั้งโลกก็เริ่มตื่นรู้ถึงความเสื่อมของระบบการเงินโลกรอบนี้กันมากมายแล้ว และเริ่มเข้าหาสินทรัพย์ที่จะรักษาอำนาจซื้อของพวกเขา ตามแต่ความเชื่อ จะเป็น ทองคำ บิทคอยน์ หรือ Hard Asset อื่นใดก็ว่าไป
ดังนั้น ความต้องการในตลาด Physical Gold จึงเพิ่มขึ้นมหาศาล นำโดยธนาคารกลางทั่วโลก (ซื้อไปทำไมหนอ อิๆๆ) และ ผู้ตื่นรู้ทั้งหลาย ย้ำ!!! ว่า Physical Gold หรือ ทองคำจริงๆ ที่อยู่ในมือของเรา ไม่ใช่ทองในมือคนอื่น ไม่ใช่ทองกระดาษ Future Gold หรือใดๆทั้งสิ้น!!
พูดง่ายๆ คือ ของที่อยู่ในมือของเรา หรือการครอบครองดูแลของเราจริงๆ แล้วเท่านั้น ที่จะปลอดภัยจาก Counterparty Risk หรือ ความเสี่ยงผิดนัดของคู่สัญญา!! ซึ่งในโลกแห่งความโลภ สับสนอลหม่านขณะนี้ ความเสี่ยงของคู่สัญญามีเยอะแยะมากมายจารนัยไม่หมด ทั้ง การปิดบริษัทหนี, Bank run, ภัย Cyber attack ฯลฯ
โดยเฉพาะความเสี่ยงที่เวลาเราฝากของไว้กับใคร แล้วพอเราจะขอรับ แล้วไม่มีของให้ อันนี้เจ็บกระดองใจสุดๆ!!
ตลาด Future ทอง ในตลาดโลกที่ผ่านมา คนมักเล่นเก็งกำไรส่วนต่างราคา แต่จริงๆแล้ว เราสามารถขอรับเป็น Physical Delivery คือ รับเป็นทองจริงหากเราเปิด Long Position เมื่อครบสัญญาได้ นะจ๊ะ (ยกเว้น ตลาด Gold Future บ้านเรา เทรดเล่นกำไรส่วนต่างราคาอย่างเดียว คือ พูดง่ายๆ มันคือการเข้าบ่อนแทงสูงต่ำนั่นแหละ)
แต่เมื่อแนวโน้มที่คนกำลังพุ่งเข้าหาสินทรัพย์ปลอดภัย ในยามที่โลกกำลังสุ่มเสี่ยงจะเกิดสงครามโลกครั้งที่สามอยู่รอมร่อ จะมีตลาด Future ที่ไหน ที่จะมีทองคำจริงส่งมอบให้กับปริมาณคำสั่งซื้อจำนวนมหาศาลได้ เพราะที่ผ่านมาเค้า leverage กันเป็น 1:100 หรือมากกว่านั้น พูดง่ายๆ ทองกิโลเดียว แต่เอาไปใช้ทำสัญญา Short ไป 100 สัญญา (100กิโล) หรือมากกว่านั้น!!!
นั่นคือสาเหตุที่ ตลาดโลหะลอนดอน หรือ London Metal Exchange ประกาศยกเลิกการเทรด Gold และ Silver Future ภายใน กค. 65 นี้ ไม่งั้นไม่มีของส่งมอบละจ้าาา แถมปริมาณการซื้อขายก็น้อยด้วย เปิดตลาดมาไม่คุ้มเลย
เรื่อง แร่เงิน หรือ Silver ก็น่าสนใจ เพราะมันคือ Poor man's Gold หรือ โลหะมีค่าที่รักษามูลค่าได้คล้ายทอง แต่มีมูลค่าต่อน้ำหนักต่ำกว่าทอง และ ยังมี Upside อยู่พอสมควร เพียงแต่ว่า คนไทยไม่นิยมเล่นกันเท่าไหร่ เลยมีตลาดรองรับน้อย (ใครทำ Silver Bar แบบมีคุณภาพ และรับซื้อขายในราคาเป็นธรรม ไม่กินส่วนต่างโหดเกินไป แจ้งผมได้เลย จะช่วย ประชาสัมพันธ์ให้)
โลกของเรา กำลังเคลื่อนไปสู่การจัดระเบียบใหม่ ทั้งในระดับการเมือง/เศรษฐกิจการเงิน หวั่นใจอย่างเดียว ขออย่าให้เกิดสงครามที่ลุกลามบายปลายมายังทวีปเอเชียใกล้บ้านเราละกัน ไม่งั้น ชีวิตพวกเราจะวุ่นวายกว่านี้อีกมาก แค่ตอนนี้ก็วุ่นวายมากพอดูแล้ว
เอาคร่าวๆ แค่นี้ก่อนเริ่มเมื่อยมือ อุ่นเครื่องให้ทุกคนพอมีพื้นความรู้ ก่อนเรามาเจอกัน วันพุธที่ 27 เมย. นี้ 2ทุ่ม ใน ฟังไว้ฯไลฟ์สด กับ ภัทร จึงกานต์กุล นะจ๊ะ
#ฟังไว้ไม่ต้องเชื่อ
#อย่าโลภอย่าประมาท
ที่มา : FB ภัทร จึงกานต์กุล
23/4/65
นักเทรดพอร์ตแตกรัว ๆ กว่า 8.62 พันล้านบาทหลัง Bitcoin และ Ethereum ร่วงลงอย่างรุนแรง
siamblockchain.com/2023/04/19/portfolio-trader-spills-8-62-billion-after-bitcoin-and-ethereum-crash/